วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

ครั้งที่ 16
วันที่ 25 เมษายน 2561



บรรยากาศในห้งเรียน
เริ่มจากการนำเสนอคำคม




การที่เราใฝ่ฝัน อยากทำบ้างอย่าง อยากเป็นบ้างสิ่ง หากไม่เริ่มลงมือทำสิ่งนั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้


การกล้าคิดต่างทำให้เรามีบทบาทและมีการออกความคิดเห็นไม่ตามอย่างเดียวแม้รู้ว่าสิ่งนั้นไม่ดีก็ทำตามแต่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น


การที่เรารักในสิ่งที่เราทำมักจะมีความุขกับการทำสิ่งนั้น และทำมันออกมาได้ดี




หลังจากนั้นเป็นการแจกรางวัลเด็กดี









หลังจากแจกรางวัลเด็ก ก็เป็นการนำเสนอ โมเดลโรงเรียน




โรงเรียนชื่นชมนภา






หลักการและเหตุผล

หลักการและเหตุผลโรงเรียนนี้จัดตั้งขึ้นเพราะทางผู้จัดตั้งโรงเรียนได้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาในระดับปฐมวัย เด็กปฐมวัยนั้นคือเด็กในช่วงตั้งแต่ 0 – 6 ปี ในช่วงวัยนี้เป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กการจัดการเรียนการสอนที่ดี ถูกต้องเหมาะสมกับวัย พัฒนาการ และวิธีการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในห้องเรียน ต้องให้ปลอดภัยเพื่อเด็กจะได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ โดยไม่เกิดอันตราย มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม จะส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วยให้เด็กได้เรียนรู้โดยผ่านธรรมชาติเป็นส่วนมาก ในปัจจุบันโลกเปิดกว้างมากขึ้น การส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางของโลกนั้นก็สำคัญเช่นกัน ทางผู้จัดตั้งโรงเรียนเห็นความสำคัญในข้อนี้จึงได้จัดให้มีครูเจ้าของภาษาประจำอยู่ในห้องเรียนทุกห้องของทุกระดับชั้น เพื่อให้มีการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ ระหว่างครูเจ้าของภาษาและเด็กภายในห้องเรียน และมีคาบเรียนภาษาต่างประเทศสำหรับเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ทางผู้จัดตั้งโรงเรียนนั้นเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเรียน ทางโรงเรียนจึงไม่มีการจำกัด เชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่เด็กที่มีความต้องการพิเศษ ทางโรงเรียนจึงมีการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนร่วมขึ้นเพื่อให้เด็ก ได้มีโอกาสที่จะเรียนเท่าเทียมกัน การจัดการเรียนร่วมนั้นจะทำให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษนั้นได้เรียนรู้การที่จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคมได้ เรียนรู้การใช้ชีวิต และนอกจากนี้เด็กปกติเองก็จะได้เรียนรู้ที่จะมีน้ำใจ มีเมตตาต่อผู้ที่ด้อยกว่าตนเอง การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และได้เรียนรู้ถึงความต่างของแต่ละบุคคล การคัดเลือกบุคลากรเข้ามาเป็นผู้ดูแลเด็กปฐมวัยนั้น    ผู้จัดตั้งโรงเรียนได้มีการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ผู้ที่จะเข้ามาดูแลเด็กได้จะต้องผ่านการคัดเลือกของทางโรงเรียนอย่างเคร่งครัดนอกจากจะมีความรู้แล้วยังจะต้องรักในวิชาชีพ รักเด็ก ไม่มีอารมณ์ร้อนหรือรุนแรง เป็นต้นโรงเรียนเป็นนั้นเป็นสถานที่ ที่ผู้ปกครองไว้วางในนำบุตรหลานมาฝากไว้ในการดูแลของทางโรงเรียน โรงเรียนจึงต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผู้จัดตั้งโรงเรียนมีความต้องการให้การเรียนการสอนของที่บ้าน และที่โรงเรียนเป็นไปในทางเดียวกันเพื่อที่การสอนนั้นจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เด็กจะได้ไม่เกิดความสับสน ทางโรงเรียนจะมีการพูดคุย การประชุม อบรมให้กับผู้ปกครองก่อนนำเด็กมาเข้าเรียนในโรงเรียน เพื่อผู้ปกครองจะได้เข้าใจ
จุดมุ่งหมายของทางโรงเรียน ผู้ปกครองจะได้ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนอย่างเต็มที่ มีการประชุม พูดคุย และอบมอยู่เรื่อยๆเพื่อให้ผู้ปกครองได้รู้ความคืบหน้าต่างๆ จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือหลักการและเหตุผลในการจัดตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นมาเพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการศึกษาที่ถูกต้องเหมาะสม ได้รับการส่งเสริม และพัฒนาอย่างสูงสุด เพราะช่วงปฐมวัยคือวัยที่สำคัญที่สุด ดังนั้นผู้จัดตั้งโรงเรียนจึงได้จัดตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นเพื่อที่จะได้พัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป



วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์อย่างมีความสุข สนุกสนาน
2. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ครู ตลอดจนสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเด็ก
4. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม
5. เพื่อส่งเสริมให้เด็กใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
6 . เพื่อฝึกและเตรียมพร้อมให้เด็กเรียนรู้ทางด้านภาษาในการสื่อสารเบื้องต้นทั้งไทยและอังกฤษ
7.  เพื่อส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้คุณค่าจากพืชพรรณธรรมชาติตอบสนองพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางในการปฏิบัติผ่านกิจกรรมเกษตรกรน้อยปลูกผักปลอดสาร


ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา

1. ข้อมูลทั่วไป

ชื่อสถานศึกษา   โรงเรียนชื่นชมนภา
ตั้งอยู่เลขที่   5711     ถนน อิทธิบาท    ตำบล สังคหวัตถุ    อำเภอ ไตรลักษณ์  จังหวัด  อริยสัจ  รหัสไปรษณีย์  84000
โทรศัพท์      099-905-5559        โทรสาร    02-345-6789      E- mail  chuenchomnapa@hotmail.com
Website       chuenchomnapa.co.th   
สังกัด           กรุงเทพมหานคร



วิสัยทัศน์
โรงเรียนชื่นชมนภาเป็นโรงเรียนต้นแบบปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กให้มีร่างกายเจริญเติบโตตามวัยมีระเบียบวินัย เน้นการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยผ่านกิจกรรมหลากหลายและทันสมัยปลูกฝังให้ผู้เรียนรักการเรียนรู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและภาษาอังกฤษในการสื่อสารมีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการอยู่ร่วมกัน ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการเรียนของเด็กเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่มีประสิทธิภาพในอนาคต

คติพจน์
ประพฤติดี ใฝ่เรียนรู้ มีคุณธรรม

ปณิธาน
ปณิธานโรงเรียนชื่นชมนภามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเด็กปฐมวัยสู่ความเป็นเลิศทางด้านการเรียนรู้ความประพฤติ และความแตกต่างในความสามารถของเด็กแต่ละคนให้มีศักยภาพต่อการศึกษาและการดำรงชีวิตในสังคมอย่างเหมาะสม

พันธกิจ
 1. จัดการศึกษาให้มีหลักสูตรเหมาะสมกับผู้เรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล
 2. ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล พัฒนาตนเอง และพัฒนาการบริหารอย่างต่อเนื่อง
 3. จัดหาสื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสนับสนุนการเรียนการสอนของเด็กอย่างเหมาะสม
 4. จัดการเรียนการสอนแนวบูรณาการ โดยเน้นให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้
 5 .พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถและมีคุณธรรม จริยธรรมอย่างสม่ำเสมอ
 6. พัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
 7.  เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน ตามความเหมาะสม
 8. ส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของเด็กตามความสามารถของแต่ละบุคคล
 9. ศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนภายในโรงเรียน
 10. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มีคุณธรรมจริยธรรม


สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน




คำขวัญ

ศึกษาดี มีวินัย ใจเมตตา ใฝ่หาคุณธรรม


ปรัชญาของโรงเรียน
พัฒนาการเด่น เน้นวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม




วัตถุประสงค์ของโรงเรียน

1.จัดการศึกษาปฐมวัย อายุ 3 – 6 ปี
2.นำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพต่อการพัฒนาผู้เรียน และประเมินพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
3. ครูมีความรู้ความสามารถทางการศึกษาปฐมวัย และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
4. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
5. ผู้เรียนมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ที่เหมาะสมกับวัย และมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์ มีลักษณะนิสัยที่ดี
มีการแสดงออกอย่างเหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
6. ผู้เรียนมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
7. ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน
8. จัดอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้
9. ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง มีปฏิสัมพันธ์กับสื่อ นวัตกรรม และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย


3. ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
เปิดสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอุบาล ถึงระดับ อนุบาล 3
การศึกษาปฐมวัย
จำนวนนักเรียนทั้งหมด 350 คน มีเด็กพิเศษ 4 คน

4. ข้อมูลครูและบุคลากร
การศึกษาปฐมวัย
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน : ครู 22 คน
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน : ห้อง 15 คน
มีจำนวนครู   ครบชั้น 

5. ข้อมูลด้านอาคารสถานที่
อาคารภายในโรงเรียนอนุบาลชื่นชมนภา ประกอบด้วย
1.  อาคารกระจ่างฟ้า ประกอบการเรียนการสอนของนักเรียนชั้น อนุบาล 1 อนุบาล 2 และอนุบาล 3
2.  อาคารเฟืองฟ้าประกอบด้วย ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องสหกรณ์การโรงเรียน
3.  อาคารแปลงผักเกษตรกรน้อยปลูกผักปลอดสาร
-  สนามเด็กเล่น
-  สระว่ายน้ำ
-  อาคารโรงอาหาร

6. การบริหารงบประมาณ
รายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณ
การใช้งบประมาณงบเงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน                      (ค่าใช้จ่ายรายหัว) ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง ประเภทงบรายจ่ายมีดังนี้

1. งบบุคลากร
1.1 ค่าจ้างชั่วคราว
2. งบดําเนินการ
 2.1 ค่าตอบแทน
2.2 ค่าใช้สอย
2.3 ค่าวัสดุ
2.4 ค่าสาธารณูปโภค

รายการงบประมาณ

โรงเรียนอนุบาลชื่นชมนภา ได้รับจัดสรรงบประมาณจากแผนงานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน งบเงินอุดหนุน : เงินอุดหนุนทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2560ดังนี้



โรงเรียนอนุบาลชื่นชมนภาจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ปีการศึกษา 2560 ดังนี้



7 สภาพชุมชนโดยรวม
ที่ตั้งของโรงเรียน 5711 ซอย พรหมวิหาร ถนน อิทธิบาท  ตำบล  สังคหวัตถุ  อำเภอ  ไตรลักษณ์                    จังหวัด   อริยสัจ 84000 อยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเข้าออกได้ง่าย รถไม่ติดสภาพแวดล้อม  สภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรียน ทางทิศตะวันตกตั้งอยู่ใกล้ วัดป่าทางธรรม ทางทิศตะวันออกตั้งอยู่ใกล้ร้านขายของชำสะดวกซื้อ                               ตลาดสดโชคดี   ทางทิศเหนือของโรงเรียนเป็นชุมชนแสนสุขที่มีการรณรงค์เศรษฐกิจพอเพียง ส่วนทางทิศใต้ของโรงเรียนเป็นสวนสาธารณะรื่นรมย์
  สภาพแวดล้อมทั่วไป มีความสวยงามรื่นรมย์เย็นสบาย ในโรงเรียนมีทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ เป็นที่อ่านหนังสือพักผ่อนหย่อนใจและลานให้นักเรียนใช้ทำกิจกรรม


8. โครงสร้างหลักสูตร

1. การจัดชั้นเด็กปฐมวัย มีดังนี้
ชั้นอนุบาลปีที่ 1 อายุ 4 ขวบ
ชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 5 ขวบ
ชั้นอนุบาลปีที่ 3 อายุ 6 ขวบ

2. ระยะเวลาเรียน3 ปีการศึกษา

3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือประสบการณ์สำคัญแบ่งเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และสาระที่ควรเรียนรู้ ได้แก่ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก
ทั้งสองส่วนใช้เป็นหลักแนวคิดในการจัดประสบการณ์ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยจัดในรูปแบบหน่วยการสอนแบบบูรณาการกับกิจกรรมหลักทั้ง 6 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษารวมทั้งทักษะพื้นฐานในการดำเนินชีวิตประจำวัน

9. แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้ 
1. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 
2. ศาลาไทย 
3. สนามเด็กเล่น 
4. ห้องอูคูเลเล่ 
5. สวนหย่อม 
6. สระว่ายน้ำ 
7. ฟาร์มเห็ด 
8. แปลงพืชผักสวนครัว 

10. ผลงานดีเด่น
ในรอบปีที่ผ่านมา ประเภทสถานศึกษา โรงเรียนชื่นชมนภาพัฒนาสู่มาตรฐานสากล โรงเรียนอนุบาล       ประจำเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนดีมีมาตรฐานระดับดีมาก ห้องสมุดโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านยอดเยี่ยม   โรงเรียนชื่นชมนภาจัดการศึกษาระดับปฐมวัยดีเด่น การแข่งขันความเป็นเลิศ           ทางวิชาการ




โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า





โรงเรียนพอเพียง







การประยุกต์ใช้
ได้รู้จักการวางแผนร่วมกับเพื่อน รู้จักการวางโครงสร้าง วางระบบ ต่างๆและสามารถนำเอาไปใช้ในอนาคตได้

การประเมินผล
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆตั้งใจทำผลงานและออกมาสวยมาก
ประเมินตนเอง
มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และมีส่วนในการตอบคำถาม รือการพรีเซนการต่างๆ
ประเมินอาจารย์
มีการชื่มชม มีการแนะนำเพิ่มเติมต่างๆ และให้ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับผลงาน


























วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2561

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

ครั้งที่ 14
วันที่ 11 เมษายน 2561


ปิดวันสงกรานต์



วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561

ครั้งที่ 13
วันที่ 4 เมษายน 2561



บรรยากาศในห้องเรียน

เริ่มจากการนำเสนอคำคมผู้บริหาร



หากเราเป็นผู้บริหารหรือผู้นำ หากเราเข้มงวดไม่ลดหย่อนให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เราก้จะทำให้ไม่มีใครอยากอยู่กับเรา


การที่เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำสิ่งใหม่ๆ นั้นคือการที่เราจะสิ่งสิ่งใหม่และเรียนรู้กับมัน


การเรากลัวและไม่กล้าทำในสิ่งนั้น คือการที่เราอยู่กับที่ แต่ถ้าเรากลัวแต่ออกไปเสี่ยง เราสามารถรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างไรจะประสบความสำเร็จมากขึ้น

พอเพื่อนนำเสนอคำคมจบอาจารย์ก็ทำการเรียนการสอน



เรื่อง กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร


ความหมายการนิเทศ



จุดมุ่งหมายของการนิเทศ


เนื้อหาสาระในการนิเทศ



กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน   ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า 
 - ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร 
 - ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
 - ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ 
- ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน 
- การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน

องค์ประกอบของกัลยาณมิตร 

1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน 
  2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน 
 3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน 
 มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน  ช่วยกันแก้ปัญหา 
 ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน 
 4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน  ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง        ปราศจากอคติ 

กระบวนการกัลยาณมิตร 
    1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ 
2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ
3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗ 
-. หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
-  พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
-  ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา 
 - ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน 
- ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา 
-  พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจด
 - คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ 
4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา 
  5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล 
6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง
7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก 

ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ
1. องค์ความรู้ 
2. แรงหนุนจากต้นสังกัด 
3. ผู้บริหารทุกระดับ 
 4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา


แนวทางการนิเทศ
     1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน 
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน 
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ 
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน 
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
 6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง 
 7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส 
 8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ 
9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ

สรุปประเด็นสำคัญ
หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด      ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง

สรุปเป็นบทร้อยกรองว่า 
  ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้ เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์   นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน 

การนำไปใช้
ได้เรียนรู้ในการสร้างกัลยานิมิตรที่ดี และสามารถนำเอาไปปฎิบัติได้

การประเมินผล
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย มีนอนหลับบ้าง
ประเมินตนเอง
มาเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังและจดตามบางครั้ง
ประเมินอาจารยื
อาจารย์มีการเตรียมการเรียนการสอนมาอย่างดี











วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

ครั้งที่ 12
วันที่ 29 มีนาคม 2561



บรรยากาศ
วันนี้ได้มีโอกาสไปดูงานนอกสถานที่ คือที่ ศุนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา เราเดินทางกันทางรถเมล์ต่อด้วยเรือไปกับอาจารย์ สนุกมากๆ


กำลังรอเรือกันนะจ้ะ


ถ่ายสะหน่อย


ในเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา


ถึงแล้ววววว


ที่อยู่: 673 ซอย อิสรภาพ 51 ถนน จรัญสนิทวงศ์ แขวง บ้านช่างหล่อ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

ประวัติศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา
          สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานครได้จัดการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชนวัดอมรทายิการามขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขได้สำรวจปัญหาในชุมชนพบว่า

มีปัญหา 2 ประการ คือ ปัญหายาเสพติด และปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก  กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขจึงตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาสุขภาพเด็ก

โดยจัดตั้ง “ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” โดยขอความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่จาก

ท่านพระครูวิบูลธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดอมรทายิการาม  เริ่มแรกท่านให้ใช้กุฏิเก่าของท่าน

มีจำนวนเด็ก 40-50 คน มีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก 4 คน ต่อมากุฏิเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรม

ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ท่านเจ้าอาวาสจึงอนุญาตให้สร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารชั้นเดียว

โดยมีคณะสงฆ์ ครูและผู้ปกครองร่วมกันก่อสร้าง ได้รับการสนับสนุนทุนสร้าง

จากสำนักงานเขตบางกอกน้อย ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และได้เปลี่ยนชื่อเป็น

“ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่  11 ตุลาคม  พ.ศ. 2527

ในปี พ.ศ.2530 ได้เปิดอย่างเป็นทางการ สภาสตรีแห่งชาติและสภาสังคมสงเคราะห์ได้

ส่งอาสาสมัครเข้ารับการอบรมเสริมทักษะด้านการเลี้ยงดูเด็ก และอาหารเสริม  ต่อมา ได้เข้าสังกัด กองสังคมสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร ได้รับค่าตอบแทนวันละ 40 บาท อาสาสมัครจำนวน 4 คน ในปี พ.ศ.2536 กองพัฒนาชุมชนได้รับช่วงต่อมา  ให้การสนับสนุนโดยขึ้นค่าตอบแทน  80บาทต่อวัน  ทำงานและส่งเสริมพัฒนาอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กแรกเริ่มอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กมีวุฒิการศึกษา ปวช., ม.6, ม.3 เข้ามาทำงานด้วยใจรักเด็ก ไม่หวังค่าตอบแทน  ต่อมาได้ศึกษาต่อด้วยทุนตนเอง จนจบอนุปริญญา และปริญญาตรี 

เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองและนำความรู้ใหม่ ๆ มาสอนเด็ก ส่วนพวกไม่มีทุนเรียนจะได้รับการอบรมในองค์กรต่างๆ  จากนั้นสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้สนับสนุนค่าตอบแทน เพิ่มเป็น 5,640 บาทและทำประกันสังคมให้ 

            ปัจจุบันมีนักเรียนอายุ  2 – 6 ปี  จำนวน 400-500 คน มีอาสาสมัครดูแลเด็กจำนวน  35 คน ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มเป็นอาคารเรียนเป็น 3 ชั้น  และใช้หลักสูตร

การศึกษาปฐมวัย 2546  จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีพัฒนาการครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนการสอน ด้านสภาพแวดล้อมให้เจริญตามลำดับมีอาสาสมัครชาวต่างชาติจาก หน่วยงาน Cross-Cultural Solutions (CCS) องค์กรอาสาสมัครนานาชาติ จดทะเบียนที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดส่งอาสาสมัครชาวต่างชาติมาช่วยสอนภาษาอังกฤษ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษาเป็นที่รู้จักและทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง


การจัดการเรีียนการสอน
   ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา มีความมุ่งมั่นปลูกฝังความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมอันดีงาม  พัฒนาความพร้อมในด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญาของเด็กให้เหมาะสมตามวัย  ฝึกให้เด็กสามารถคิด วิเคราะห์แก้ปัญหา และกล้ายอมรับผิดได้อย่างเหมาะสมตามวัย โดยผ่านบทบาทสมมุติ อีกทั้งอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เด็กได้ลงมือทำด้วยตนเองมีครูเป็นผู้คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ โดยแบ่งนักเรียนเป็น ระดับชั้น ดังนี้
ระดับเตรียมพร้อม

นักเรียนสามารถช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน สามารถสื่อความหมายสั้นๆ ง่ายๆ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

ระดับอนุบาล 1

พัฒนาความพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาตามวัย พัฒนาความพร้อมของกล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา สร้างระเบียบวินัยการอยู่ร่วมกันในสังคม การช่วยเหลือตนเอง

ระดับอนุบาล 2

เสริมสร้างระเบียบวินัยการอยู่ร่วมกันในสังคม กิริยามารยาทที่ดีงาม การช่วยเหลือตนเอง และเตรียมความพร้อมด้านวิชาการ

ระดับอนุบาล 3

ปลูกฝังความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมอันดีงาม ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิชาการเพื่อพร้อมเข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1



โครงสร้างสถานศึกษา










บรรยากาศการทำกิจกรรมตอนเช้า




บรรยากาศในห้องประชุม
 มีการให้ข้อมูต่างๆ เกี่ยวกับโรงเรียน




และร่วมตอบ และ ถามคำถาม



หลังจากนั้นคุณครูก็พาไปดูบรรยากาศรอบๆโรงเรียน







ในขณะที่ดูงานมีอะไรสงสัยเราก็สามารถสอบถามได้
เช่นเครื่องเล่นนี้ ทำมาจากเปเปอร์มาเช 
คือตอนแรกแบบ โห ทำเอง กี่วันเนี้ย 55555
และเเข็งแรงมากจ้า

ไม่เชื่อต้องลองสะหน่อย

แข็งแรงมากเจ้าค่ะ


มีความสงสัยไปหมด นี่คือเขาววงกตจ้าา
เห็นแล้วอยากไปเล่นเองเลย


ผลงานของน้องๆ


ถ่ายรูปรวม


การประยุกต์ใช้
ได้เรียนรู้ความหลากหลาย เทคนิคต่างๆ วิธีการสอน การผลิตสื่อต่างๆที่เราไม่รู้มาก่อน และการดีไซด์สถานที่ ที่มีความหลากหลายสะดุดต่างรวมทั้ง การบริหารสถานศึกษา

การประเมินผล
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจ มาตรงเวลามีส่วนร่วมในการตอบคำถาม และตั้งใจศึกษา เรียนรู้สิ่งต่างๆ
ประเมินตนเอง
มีความตั้งใจ และความพร้อม ร่วมทั้งมีส่วนร่วมในการตอบคำถามและถามคำถามต่างๆ 
ประเมินอาจารย์
อาจารย์ดูแลนักศึกษาน่ารักมากขณะเดินทาง และให้คำแนะนำต่างๆ