เริ่มจากการนำเสนอคำคมดังเช่นทุกอาทิตย์
หากมีคนทำผิดแล้วเราไม่เห็นด้วยเราไม่ควรซ้ำเติมเพราะเขาอาจจะไม่มีทางเลือกควรที่จะให้กำลังใจมากกว่าซ้ำเติม
การเป็นผู้นำไม่ใช่อยากจะสั่งเห็นคนอื่นเป็นผู้ตามเรานำอย่างเดียวแต่เพียงแค่เราทำตัวให้เคราพนับถือไว้ใจ ผู้อื่นก็อยากตามเราด้วยความยินดี
หากเรารักในสิ่งที่เราทำจงทำไม่ใช่ฟังคนอื่น
พอนำเสนอคำคมเสร็จก็นำเสนอวิจัย
งานวิจัย
เรื่อง การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่
การศึกษาระดับ ประถมศึกษา
มหาวิทยาลัย หาดใหญ่
ผู้วิจัย ลดารัตน์ ศศิธร
ปีการศึกษา 2558
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1
กระทรวงศึกษาธิการมุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาและสร้างโอกาสให้คนไทยมีการศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการศึกษาโดยกำหนดเป้าหมายการศึกษาอย่างชัดเจน ที่จะทำให้การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคนเพื่อให้เป็นคนที่มีคุณภาพ มีความพร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญามีจิตสำนึกของความเป็นไทย และตระหนักรู้ถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีไทย และตอบสนองต่อทิศทางการพัฒนาประเทศ
ประเด็นที่ 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับขั้นพื้นฐานให้มีมาตรฐานตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2545 ในมาตรา 4 ซึ่งกำหนดว่า “มาตรฐานการศึกษา” หมายถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมิน และการประกันคุณภาพทางการศึกษา (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2555, น.1-4) ในปีพ.ศ.2554 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีโรงเรียนในสังกัดจำนวน 31,116 โรงเรียน จำแนกขนาดของโรงเรียนตามจำนวนนักเรียน เป็น 4 ขนาด ได้แก่ ขนาดเล็ก มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 120 คนลงมา ขนาดกลาง มีจำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 121 ถึง 600 คน ขนาดใหญ่ มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 601 ถึง 1,500 และขนาดใหญ่พิเศษ มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 1,501 คนขึ้นไป
ประเด็นที่ 3
จากการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(2554,น.1-5) พบว่าคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กส่วนมากขาดประสิทธิภาพ และมีคุณภาพค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ ปัญหาด้านกานลงทุนการศึกษาพบว่าการลงทุนการศึกษากับผลตอบแทนที่โรงเรียนขนาดเล็กจะได้รับไม่คุ้มเปรียบเทียบกับโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ส่วนปัญหาด้านการลงทุนพบว่าการลงทุน,การศึกษากับผลตอบแทนโรงเรียนขนาดเล็กได้รับไม่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ทั้งนี้เนื่องจากโรงเรียนขนาดเล็กขาดปัจจัยต่างๆมากถ้าหากโรงเรียนเหล่านี้มีความพร้อมด้านบุคลากรงบประมาณสื่อวัสดุอุปกรณ์ต่างมาส่งเสริมสนับสนุนในการบริหารจัดการโรงเรียนให้ได้ตามมาตรฐาน หลักสูตรกำหนดการลงทุนต้องสูงมากและไม่คุ้มกับการลงทุนในด้านขวัญและกำลังใจจากบุคลากรพบว่าขวัญขวัญและกำลังใจในโรงเรียนขนาดเล็กนั้นด้อยกว่าโรงเรียนขนาดกลางพลังในการคิดร่วมทำงานร่วมกันมีน้อยขาดความพร้อมในการปฎิบัติ
ประเด็นที่ 4
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีโรงเรียนทั้งหมด 45.78 (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่,2557) ประสบปัญหากาจัดการเรียนการสอนเช่นเดียวกับโรงเรียนขนาดเล็กจึงได้นำนโยบายดังกล่าวมาจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอน 3รูปแบบ คือ 1) โรงเรียนร่วมทุกระดับชั้นมีจำนวน 21 โรง 2) โรงเรียนร่วมบางระดับชั้น มีจำนวน 6 โรง 3) โรงเรียนสอนตามปกติมีจำนวน 6 โรง พบว่าข้อมูลยังไม่ชัดเจนในการบริหารการเงิน พัสดุและทรัพย์สินและไม่ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงเป็นปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการ จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ทำให้ผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษาการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ตามกรอบบริหารและการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ ศ. 2542
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ด้านความรู้
ทำให้ทราบความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษา ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อการบริหารการจัดการขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษากระบี่
-ทำให้ทราบถึงความพึงพอใจของ ผู้บริหารการศึกษา ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและนักเรียน ต่อการบริหารการจัดการขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษากระบี่
2.ด้านการนำไปใช้
สามารถนำข้อมูลที่ได้เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้แก้ไขปัญหาหรือเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาคุณภาพโรงเรียนที่ดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่
ตัวแปรอิสระ/ตัวแปรต้น /ตัวจัดกระทำ
ตัวแปรอิสระ คือข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถาม ประกอบด้วย
1.ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน
-ประสบการณ์ในการบริหารงานในสถานศึกษา
-ลักษณะของโรงเรียน
2.คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
-ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในสถานศึกษา , ลักษณะของโรงเรียน
3.ผู้ปกครองนักเรียน
-ความสัมพันธ์กับนักเรียน,อายุ,เพศ,วุฒิการศึกษา,ลักษณะของโรงเรียน
4.นักเรียน
-เพศ
-ระดับชั้น
-ลักษณะของโรงเรียน
ตัวแปรตาม
1.การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ตามภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่
-ด้านการบริหารจัดการทั่วไป
-ด้านการบริหารงานการเงิน พัสดุ และทรัพย์สิน
-ด้านการบริหารงานบุคคล
-ด้านการบริหารงานวิชาการ
2.ความพึงพอใจในการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สมมุติฐานการวิจัย
ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในสถานศึกษาและลักษณะของโรงเรียนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่แตกต่างกัน
วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากร
ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน จำนวน143 คน คณะกรรมการสถานศึกษา ครูผู้สอน จำนวน143 คน คณะกรรมการสถานศึกษาครูผู้สอน จำนวน143 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานไม่รวมครูและผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน126คน ผู้ปกครอง จำนวน1,125คนและนักเรียนของโรงเรียนร่วมสังกัด 18 โรง จำนวน 405 คน รวมทั้งสิ้น 1,799 คน (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่,2017)
กลุ่มตัวอย่าง
จำนวน317 คน สุ่มแบ่งชั้นโดยใช้ลักษณะของโรงเรียนเป็นตัวแบ่งชั้น แล้วจึงเลือกแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
แบบสอบถามจำนวน 3 ชุด
ชุดที่ 1 แบบสอบถามผู้บริหาร สถานศึกษา ครูผู้สอนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ชุดที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กโดยการจัดการเรียนร่วม
ชุดที่3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการจัดการเรียนร่วม
สรุปผลการวิจัย
ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นต่อการ
บริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการจัดการเรียนร่วมในภาพรวมและหลายด้านอยู่ในระดับ
ปานกลาง และเมื่อพิจารณารายข้อในด้านการบริหารจัดการทั่วไป พบว่าผู้บริหารจัดการ
ศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นว่าในการบริหาร
จัดการเรียนร่วมได้มีการดำเนินงานเรื่องการเดินทางไปเรียนร่วมกับนักเรียนและ สามารถดำเนิน
การได้ตามแนวปฎิบัติและครอบคลุมนักเรียนทุกคนอย่างสูงสุดเท่ากัน
สามารถนำเอาความรู้ที่ได้เกี่ยวกับงานวิจัยไปเป็นตัวอย่างการค้นคว้าของมูลได้
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆมีการเตรียมตัวมาพร้อมในการนำเสนอ
ประเมินตนเอง
มีความพร้อมและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีการแนะนำและอธิบายเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น